เตรียมตัวสอบสัมภาษณ์อย่างไรให้ผล?


เตรียมตัวสอบสัมภาษณ์อย่างไรให้ผล?

โดย ทวีศักดิ์ จันทร์ประดิษฐ


ภาพจาก GOOGLE 


การสอบสัมภาษณ์นั้นเป็นการทดสอบผู้สมัครงาน โดยหลักๆนั้นจะทดสอบเกี่ยวกับ ทักษะ ปฏิญาณไหวพริบ ความคิดสร้างสรรค์ในการตอบคำถามมากกว่าส่วนอื่นๆ
ดังนั้นผู้ถูกสอบสัมภาษณ์ควรจะต้องหาข้อมูลทำความเข้าใจเกี่ยวกับประวัติองค์กรที่สมัคร สายงานที่สมัคร และความไม่ประมาท ไม่ประมาทในที่นี้ก็คือ การเตรียมพร้อมคำถาม-คำตอบล่วงหน้าโดยใช้หลักความน่าจะเป็นในการร่างคำถามเอง และฝึกตอบคำถามเหล่านั้นด้วยตัวเองก่อน หรืออาจจะเรียกกว่าเป็นการคาดคะเนว่าผู้สอบสัมภาษณ์เราน่าจะถามอะไรเรา
แน่นอนว่าเราไม่รู้ว่าผู้สอบเราจะถามอะไร แต่อย่างน้อยเราก็น่าจะเดาได้ไม่ยากว่าผู้สอบจะสอบอะไรเรา ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เราสมัคร สายงานที่เราสมัคร และแน่นอนเขาจะต้องถามเราเกี่ยวกับสายงานที่เราสมัคร เช่นสมัครตำแหน่งอาจารย์สอนภาษาอังกฤษ  สิ่งที่เราต้องเตรียมตอบคำถามก็ต้องเกี่ยวกับการสอนภาษาอังกฤษ แต่ส่วนใหญ่ผู้สอบสัมภาษณ์เราจะถามตามเรซูเม่ (Resume) ของเรา และเราต้องตอบให้ชัดเจนมีการยกตัวอย่างประกอบเพื่อให้ผู้สอบเราเห็นภาพ
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องอาศัยการฝึกถาม-ตอบด้วยตัวเองให้คล่องก่อน และจะดีมากถ้ามีผู้ที่คอยชี้แนะเรา ช่วยปรับปรุง และแสดงความคิดเห็นต่างๆให้เราเพื่อช่วยให้เราได้พัฒนาตัวเราเองก่อนจะถึงวันสอบสัมภาษณ์จริง ข้อดีของการมีผู้ชี้แนะ คือ 1เห็นจุดอ่อนเรา 2ช่วยแนะนำชี้ทางให้เรา 3สร้างความพร้อม ความมั่นใจให้เรา 4เป็นแรงบันดาลใจให้เรา 5เป็นตัวอย่างที่ดีให้เรา ...ส่วนตัวผมต้องขอบพระคุณท่านอาจารย์ ดร.มนตรา เลี่ยวเส็ง ที่เข้ามาช่วยเตรียมตัวในส่วนนี้อย่างเต็มที่ ทำให้ผมผ่านการสอบในที่สุด
วิธีการเตรียมตัวสอบสัมภาษณ์ในแบบของผมหลักๆมี 5 ข้อดังนี้
1. ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับประวัติองค์กรที่เราสมัคร ข้อมูลงาน ตำแหน่ง หน้าที่การงานที่เราสมัคร และอื่นๆที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับอ่านทำความเข้าใจให้ละเอียด
2. ร่างคำถาม-คำตอบที่คิดว่าคณะกรรมการสอบสัมภาษณ์เราน่าจะถามเรามากที่สุด เราอาจจะตั้งคำถามโดยอาศัยการใช้หัวข้อตามเรซูเม่ของเราก็ได้ หรือวิธีอื่นๆ แต่ประเด็นก็คือ ต้องร่างคำถาม-คำตอบ และฝึกฝนกับตัวเองให้คล่องก่อนวันสอบจริง
3. หาผู้ชี้แนะ – ผู้ชี้แนะสามารถเป็นผู้สอบสัมภาษณ์เราโดยสมมุติได้ แถมยังแนะนำเราได้อีกด้วย เพิ่มความมั่นใจ ลดความตื่นเต้น หรือ ตื่นสนามสอบได้ เราควรจะฝึกกับผู้ชี้แนะเรา และรับฟังความคิดเห็นเพื่อนำมาปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น ก่อนวันสอบจริง สำคัญมากๆครับในส่วนนี้

4. กายพร้อม ใจพร้อม เราทำได้ – การสอบสัมภาษณ์นั้นเป็นมากกว่าการสอบสัมภาษณ์ ผู้สอบเราจะสังเกตตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเรา ทุกอิริยาบถของเรา โดยเฉพาะการแต่งกาย คำพูด และความมั่นใจของเรา ดังนั้น กายพร้อมก็คือ ร่างกายสะอาด แต่งตัวเรียบร้อย  ตัดเล็บ ทรงผมไม่ยาวเกินไป เป็นต้น ส่วนใจพร้อมก็คือ มีความมั่นใจในตัวเองเกินร้อย คิดบวกเสมอ เป็นต้น
5.ไปก่อนเวลาสอบ – วันสอบของผม (ตำแหน่งอาจารย์สอนภาษาอังกฤษระดับปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นครปฐม) ก็คือ วันที่ 12 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา ผมขอเล่าเหตุการณ์สั้นๆก่อนวันสอบก็คือว่า ตัวผมเองอยู่นครศรีธรรมราช  ผมจำเป็นต้องออกเดินทางวันที่ 9 เม.ย. 2559 ช่วงค่ำ ไปถึง กทม ช่วงเช้าวันที่ 10 เม.ย. 2559
หลังจากนั้นผมไปพักกับเพื่อน และเตรียมเตรียมติวก่อนสอบกับท่านอาจารย์ ดร.มนตรา เลี่ยวเส็ง ช่วงบ่ายของวันที่ 10 เม.ย. 2559 จนค่ำ หลังจากนั้นผมเดินทางกลับมาพักกับเพื่อน และเตรียมสอบ ก่อนเดินทางไปพักที่สวนแสนปาล์ม ซึ่งอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นครปฐม ในช่วงบ่ายวันที่ 11 เม.ย. 2559 ผมพักที่สวนแสนปาล์ม 1 คืน จนรุ่งเช้าวันที่ 12 เม.ย. 2559 ซึ่งเป็นวันสอบของผม
ผมตื่นตี 5 ของเช้าวันที่ 12  เพื่อทบทวนเตรียมตัวสอบก่อนพระอาทิตย์ขึ้น หลังจากเสร็จกิจส่วนตัว ผมก็เดินทางไปมหาลัย ผมไปถึงคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นครปฐม เวลาประมาณ 7.30 ทั้งๆที่การสอบเริ่มช่วงบ่าย ผมไปตั้งแต่ห้องเรียนยังไม่เปิด ผมไปก่อนคณบดีและคณาจารย์ทุกๆท่านที่นั่นเพราะเวลาราชการเริ่ม 8.30
พอคณบดีลงจากรถ ท่านก็เห็นผมเป็นคนแรก ผมก็ยกมือไหว้ท่านก่อนที่ท่านจะถามผมว่าชื่ออะไร มาทำไม หลังจากผมตอบคำถามท่านแล้ว ท่านก็พาผมไปนั่งในห้องๆหนึ่งเพื่อพักผ่อน ผมเชื่อว่าท่านที่กำลังอ่านน่าจะเห็นอะไรนะครับ สิ่งที่ผมทำนี้มันแสดงอะไรหลากอย่างให้เขาเห็นทางอ้อม
สรุปคือ เรื่องเวลาสำคัญที่สุด ดังคำพูดที่ว่า ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน


โบนัสภาพถ่ายต่อไปนี้เป็นการจดบันทึกการฝึกถาม-ตอบของผมโดยมีท่านอาจารย์ ดร.มนตรา เลี่ยวเส็ง เป็นผู้ฝึกขัดเกลาทักษะต่างๆให้อย่างใกล้ชิดเป็นกันเองที่สุด










ขอบคุณที่ติดตามครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ความแตกต่างระหว่าง maid และ housekeeper แบบย่อ

จับจุดอ่อนของ Informality (ความไม่เป็นทางการในการใช้ภาษาพื้นฐาน)

10 คำคม