Enlarge Your Vocabulary with What I Call "Dictionary-based Method"
สวัสดีนิสิตทุกคนที่เข้ามาอ่านครับ
วันนี้อาจารย์อยากจะแนะนำวิธีการเรียนคำศัพท์ด้วยการยึดวิธีการของพจนานุกรมเป็นหลัก (Dictionary-based Method) บวกกับความคิดของอาจารย์เข้าไป การเรียนอะไรก็ตาม ต้องมีวินัยในการฝึกฝนทุกวัน
ปกติเวลาเราเปิดพจนานุกรมออนไลน์ เช่น Cambridge Dictionary (https://dictionary.cambridge.org/dictionary/english/excite) หากเราพิมพ์คำศัพท์ลงไปสัก 1 คำ อย่างเช่น คำว่า excite พจนานุกรม จะบอกอะไรเราบ้างเกี่ยวกับคำนี้
สิ่งเหล่านี้คือ สิ่งที่พจนานุกรมบอกครับ
1. คำศัพท์
2. ความหมายของคำศัพท์หลัก ๆ ว่ามักจะใช้ในความหมายอะไรบ้าง
3. หน้าที่ของคำศัพท์ว่าสามารถทำหน้าที่อะไรบ้าง (Parts of Speech)
4. การอ่านออกเสียงคำศัพท์โดยมีตัว Phonetic transcription ให้เราด้วย
5. ประโยคตัวอย่างในการใช้คำศัพท์ในบริบทต่าง ๆ มากมาย
6. คำที่พ้องความหมาย (synonym) และคำที่ไม่พ้องความหมาย หรือคำที่มีความหมายตรงกันข้ามกัน (antonym)
ปกติคำศัพท์ 1 คำในภาษาอังกฤษมีความหมายมากมาย หากมันไปเชื่อมกับคำอื่น ๆ เช่น พวก compound verbs, compound adjectives เป็นต้น
5.2 to cause a particular feeling or reaction (formal) in someone / something เช่น The presiential election results have excited the interest of people around the world. แปลว่า ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐทำให้คนทั่วโลกสนใจอย่างมาก เพราะประเด็นนี้อยู่ในความสนใจของคน คนอยากรู้อยากเห็นว่าผลจะเป็นอย่างไรในที่สุด ดังนั้น excite ในบริบทนี้จะใช้ในเฉพาะประเด็นหรือเรื่องอะไรบางอย่างที่เป็นเหตุทำให้คนสนใจ กระตุ้นความสนใจของคน หรือทำให้คนอยากรู้อยากเห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นในที่สุด เป็นประเด็นที่อยู่ในความสนใจของคน เป็นต้น
6. คำที่พ้องความหมาย (synonym) ของคำว่า excite ได้แก่ arouse, incite, inspire, provoke, stimulate bewitch, captivate, charm, delight, enchant, enthrall (or enthral), hypnotize, mesmerize, rivet, spellbind interest, intrigue, tantalize, arouse, encourage, fire (up), impassion, incite, instigate, move, pique, provoke, rev (up), spark, stimulate, stir ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริบทในการใช้ด้วย
คำที่ไม่พ้องความหมาย หรือคำที่มีความหมายตรงกันข้ามกัน (antonym) เช่น bore, jade, pall, tire, weary
deject, demoralize, discourage, dishearten, dispirit, calm, soothe, subdue, tranquilize (also tranquillize)
appease, mollify, pacify, placate เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริบทในการใช้ด้วย
ข้อต่อไปนี้ คือ สิ่งที่ อ.อยากจะแถมเข้าไป คือ
7. เราต้องรู้ตระกูลคำ หรือ Word family เช่น ตระกูลของคำว่า excite คือ
excited เป็นคุณศัพท์ประเภท -ed adjective แปลว่า รู้สึกตื่นเต้น เช่น I'm excited to see you today.
excitedly เป็นกริยาวิเศษณ์ แปลว่า อย่างตื่นเต้น เช่น He talks to his boss excitedly.
excitement เป็นคำนาม แปลว่า ความตื่นเต้น He cannot hide his excitement of becoming a parent.
exciting เป็นคำคุณศัพท์ประเภท -ing adjective แปลว่า ซึ่งน่าตื่นเต้น เช่น This movie is very exciting.
8. เราควรรู้เรื่อง collocation คือ คำหรือกลุ่มคำที่มักใช้ไปด้วยกันหรือใช้คู่กัน เช่นคำว่า excite มักจะใช้คู่กับคำนาม คือ interest/curiosity/sympathy กลายเป็น excite + interest/curiosity/sympathy อันนี้เราเรียกว่าเป็น collocation ระหว่าง verb + noun เช่น The presidential election has excited a lot of public interest. เป็นต้น
9. เราควรรู้หลักการสร้างคำของภาษาอังกฤษ (word formation) โดยเฉพาะพวก prefix/root/suffix เพราะคำศัพท์ส่วนใหญ่สร้างคำโดยการเติมหน้า-เติมหลังไปท้ายคำเยอะมาก เช่น คำว่า excite / excit-ing / excit-ed / excit-ed-ly / excite-ment เป็นต้น คำที่เห็นได้ชัดทั้งเติมหน้า-เติมหลังมีหลายคำ เช่น happy / un-happy / happi-ness / un-happi-ness เป็นต้น
ทั้งนี้การสร้างคำในภาษาอังกฤษมีหลายประเภท หลัก ๆ คือ
1. affixation
2. folk etymology
3. compounding
4. abbreviation
5. acronyms
6. borrowing
7. lending
8. clipping
9. back-formation
ลองไปศึกษาเพิ่มเติมดูครับ
10. เราควรใช้พจนานุกรมที่เป็นอังกฤษ-อังกฤษ เป็นหลัก เพราะเราจะได้คำศัพท์เพิ่มจากคำศัพท์ที่เราค้นหา เราสามารถได้เรียนรู้คำศัพท์ผ่านการแปลคำนั้นอีกทอดหนึ่ง เช่น คำว่า beauty ถ้าเราเปิดพจนานุกรมแบบอังกฤษ-ไทย เราก็รู้แค่ว่า ความสวยงาม / นางงาม เป็นภาษาไทย แต่ถ้าเราใช้แบบอังกฤษ-อังกฤษ เราจะได้คำศัพท์เพิ่ม เช่น Beauty คือ APPEARANCE [uncountable] a quality that people, places, or things have that makes them very attractive to look at เห็นไหมว่าเราจะได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ จากการแปลความหมายเยอะเลย เช่น appearance / quality / people / places / things เป็นต้น
สุดท้าย อ.ฝากทั้งหมด 10 ข้อ นิสิตสามารถนำไปใช้กับคำศัพท์อื่น ๆ ได้ทุกคำครับ ยึดหลัก 10 ข้อข้างต้นที่อาจารย์กล่าวมา แล้วเราจะเก่งขึ้นแน่นอน
พจนานุกรมออนไลน์แนะนำ
https://dictionary.cambridge.org/
https://www.ldoceonline.com/
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น